เว็บไซต์ (อังกฤษ: website, web site, Web site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์
มาจากเว็บhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C
เว็บเพจ (webpage) หมายถึง หน้าหนึ่ง ๆ ของเว็บไซต์ ที่เราเปิดขึ้นมาใช้งาน
โดยทั่วไป เว็บเพจส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของเอกสาร HTML หรือ XHTML (ซึ่งมักมีนามสกุลไฟล์เป็น htm หรือ html) มีลิงก์สำหรับเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น ๆ สามารถใส่รูปภาพและรูปภาพยังสามารถเป็นลิงก์ กล่าวคือสามารถคลิกบนรูปเพื่อกระโดดไปหน้าอื่นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใส่แอปเพล็ต (applet) ซึ่งเป็นโปรแกรมขนาดเล็กแสดงภาพเคลื่อนไหว มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ หรือสร้างเสียง ได้อีกด้วย
โปรแกรมที่ใช้เปิดดูเว็บเพจ เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ ตัวอย่างเว็บเบราว์เซอร์ที่เป็นที่นิยม เช่น อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์, Netscape, มอซิลลา ไฟร์ฟอกซ์, และ ซาฟารี เป็นต้น
โปรแกรมสำหรับสร้างเว็บเพจ เช่น โปรแกรม Macromedia Dreamweaver , PHP & MySQL , Flash Professional เป็นต้น
มาจากเว็บhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%88
โฮมเพจ (HomePage) หมายถึง เว็บเพจหน้าแรกของเว็บไซต์ ซึ่งประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอ และจะบันทึกไฟล์เป็นนามสกุล.html หรือ .htm ชื่อไฟล์เป็น index เช่น index.html
มาจากเว็บhttp://www.krumali.com/e-learning/word.html
URL ย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator หมายถึงที่อยู่
(Address) ของข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เน็ต ซึ่งรูปแบบของ URL จะ
ประกอบด้วย
1. ชื่อโปรโตคอลที่ใช้ (http ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocol)
2. ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และชื่อเครือข่ายย่อย (www/urlbookmarks)
3. ประเภทของเว็บไซต์ (.com) ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ
3.1 ประเภทสากลเช่น
.com (Commercial)
.edu (Educational)
.org (Organizations)
.net (Network)ฯลฯ
3.2 ประเภทท้องถิ่นจะมีชื่อย่อของแต่ละประเทศต่อท้ายด้วยเช่น
.th สำหรับประเทศไทย เช่น co.th, or.th, go.th ฯลฯ
.cn สำหรับประเทศจีน
.in สำหรับประเทศอินเดีย
.jp สำหรับประเทศญี่ปุ่นฯลฯ
มาจากเว็บhttp://pirun.kps.ku.ac.th/~b5027065/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%2019%20%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%20%20%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.2551.pdf
Web Browser หมายถึงโปรแกรมใช้ในการแสดงผลภาษา HTML ให้แสดงในรูป World Wide Web ของอินเทอร์เน็ต เช่น Netscape Navigator, Internet Explorer ฯลฯ
มาจากเว็บhttp://www.krumali.com/e-learning/word.html
HTML (Hyper Text Markup Language) เป็นภาษาที่ใช้ในการพัฒนา web page เพื่อให้โปรแกรม web brower ต่างๆ (Internet Explorer, Netscape, Opera) สามารถแปลงคำสั่ง แสดงผลในลักษณะของรูปภาพ ตัวอักษร เสียง ภาพเคลื่อนไหว โดยไฟล์ที่สร้างจะมีนามสกุล .html หรือ .htm การสร้างและแก้ไขสามารถใช้โปรแกรม NotePad, WordPad ในวินโดวส์ ลักษณะของไฟล์จะเป็น Text ไฟล์ธรรมดา
มาจากเว็บhttp://www.it-guides.com/html/lesson01.html
FTP คืออะไร ?File Transfer Protocal : FTPFTP คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ FTP หมายถึง การดาวน์โหลด หรือย้ายไฟล์ในระบบอินเตอร์เน็ตมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกันก็สามารถนำไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลโดยผ่านโปรแกรม FTP สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้หลายประเภทแล้วแต่ว่าผู้ใช้จะต้องการใช้งานไฟล์ประเภทใด จุดเด่นสามารถนำไปใช้รวมกับระบบการการทำเว็บไซต์ , เป็นช่องทางเก็บหรือส่งข้อมูลหาลูกค้าหรือภายในองค์กรได้ ที่ webmaster ใช้ นั่นคือ การ ftp อัพไฟล์ ขึ้นโฮส (host)เอฟทีพี (FTP) ย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า File Transfer Protocal : FTP หมายถึง การดึงไฟล์จากคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราหรือของผู้ใช้คนอื่น โดยปกติการดึงไฟล์จากอินเทอร์เน็ต เราจะต้องติดต่อไปยังผู้ให้บริการ ซึ่งเรียกว่า เอฟทีพีไซต์ (FTP Site) เอฟทีพีไซต์ที่สำคัญในอดีตจะเป็นหน่วยงานของรัฐบาล หรือมหาวิทยาลัย
FTP เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับ upload/download หรือดูโครงสร้างของไฟล์และ directory ใน Server
เอฟทีพีมีอยู่ 2 ประเภทFTP ประเภท ที่ 1 คือ ไพรเวทเอฟทีพี (Private FTP) หรือเอฟทีพีเฉพาะกลุ่ม นิยมใช้ตามสถานศึกษาและภายในบริษัท ผู้ใช้บริการจะต้องมีรหัสผ่านเฉพาะจึงจะใช้งานได้FTP ประเภทที่2 คือ อะโนนีมัสเอฟทีพี (Anonymous FTP) เป็นเอฟทีพีสาธารณะให้บริการดึงไฟล์ฟรีโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน เราสามารถติดต่อเว็บไซต์เหล่านี้ได้โดยผ่านเว็บเบราเซอร์ ซึ่งปัจจุบันเว็บไซต์สาธารณะมีอยู่เป็นจำนวนมาก การใช้เอฟทีพีมีจุดมุ่งหมายหลักก็คือ การนำเอาไฟล์ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน ข้อมูลเหล่านั้นอาจเป็นข้อมูลตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง วิดีโอ หรือโปรแกรมสำเร็จรูป โดยเฉพาะโปรแกรมใหม่ๆ ที่บริษัทต่างๆ คิดค้นขึ้นมาและต้องการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนใดที่สนใจก็สามารถใช้เอฟทีพีดึงเอาโปรแกรมเหล่านั้นมาใช้งานได้ประเภทของแฟ้มข้อมูล ไฟล์ที่เราสามารถดึงมาใช้งานได้นั้น แบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้
- ไฟล์ข้อความ (Text File) เป็นไฟล์ที่แพร่หลายมากที่สุดในอินเทอร์เน็ต โดยจะบรรจุข้อความตัวอักษรภาษาต่างๆ เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และอื่นๆ เป็นต้น ปัจจุบันเวิลด์ไวด์เว็บนิยมใช้ไฟล์ข้อความมาก เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร อีเมล์ เป็นต้น การสังเกตไฟล์ข้อความดูได้จากนามสกุล คือ .txt , .doc , .html เป็นต้น การดึงไฟล์ข้อความจากอินเทอร์เน็ตทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย เพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก- ไฟล์ภาพ (Graphics) เป็นภาพประกอบบนเว็บเพจ นิยมใช้กันมากรองจากไฟล์ข้อความ โดยปกติไฟล์ภาพจะมีขนาดใหญ่ การดึงไฟล์จึงต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ตัวอย่างไฟล์สังเกตได้จากนามสกุลไฟล์ เช่น .bmp , .jpg , .gif เป็นต้น- ไฟล์เสียง ไฟล์เสียงได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะไฟล์เสียงจาก real Audio ที่ให้เสียงต่อเนื่องเหมืนฟังรายการเพลงจากวิทยุทั่วไป และไฟล์ประเภท Mp3 ซึ่งเป็นเพลงต่างๆ ทั้งภาาาไทยและภาษาอังกฤษ ไฟล์เสียงที่นิยมใช้ประกอบในหน้าเว็บเพจ ตัวอย่างไฟล์เสียง เช่น .au , .ra , .ram , .wav เป็นต้น- ไฟล์เสียง ไฟล์เสียงได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะไฟล์เสียงจาก real Audio ที่ให้เสียงต่อเนื่องเหมืนฟังรายการเพลงจากวิทยุทั่วไป และไฟล์ประเภท Mp3 ซึ่งเป็นเพลงต่างๆ ทั้งภาาาไทยและภาษาอังกฤษ ไฟล์เสียงที่นิยมใช้ประกอบในหน้าเว็บเพจ ตัวอย่างไฟล์เสียง เช่น .au , .ra , .ram , .wav เป็นต้น- ไฟล์เสียง ไฟล์เสียงได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะไฟล์เสียงจาก real Audio ที่ให้เสียงต่อเนื่องเหมืนฟังรายการเพลงจากวิทยุทั่วไป และไฟล์ประเภท Mp3 ซึ่งเป็นเพลงต่างๆ ทั้งภาาาไทยและภาษาอังกฤษ ไฟล์เสียงที่นิยมใช้ประกอบในหน้าเว็บเพจ ตัวอย่างไฟล์เสียง เช่น .au , .ra , .ram , .wav เป็นต้น
สรุป สั้น ว่า FTP คืออะไรFTP คือFTP เป็นการ upload/download หรือดูโครงสร้างของไฟล์และ directory ใน Server
FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocal เป็น Protocal ที่ใช้ ในการส่งไฟส์ เป็นบริการคัดลอกข้อมูลข้ามเครือข่าย โดย ใช้ในการส่งข้อมูลจากเครื่องลูกไปยังเครื่องแม่ข่าย (Server) ใช้ในการดาวน์โหลดข้อมูล จากเครื่องแม่ข่าย มาไว้ที่เครื่องลูก การใช้บริการ FTP สามารถทำได้ทั้งผู้ที่เป็นสมาชิก FTP Server และบุคคลภายนอก ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก โดยสามารถเข้าไปใช้บริการได้ (บางประเภท) ในนาม anonymous ปัจจุบันการใช้บริการ FTP สามารถทำได้ทั้งในรูปแบบ Text Mode ผ่าน Unix ด้วยคำสั่ง get, put หรือ Graphics Mode ผ่าน Microsoft Windows เช่น การใช้โปรแกรม WinFTP Light, CuteFTP และ ของฟรี FTP Open Source ที่ใช้กันบ่อย Filezilla
การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ FTP หมายถึง การดาวน์โหลด หรือย้ายไฟล์ในระบบอินเตอร์เน็ตมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกันก็สามารถนำไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลโดยผ่านโปรแกรม FTP สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้หลายประเภทแล้วแต่ว่าผู้ใช้จะต้องการใช้งานไฟล์ประเภทใด จุดเด่นสามารถนำไปใช้รวมกับระบบการการทำเว็บไซต์ , เป็นช่องทางเก็บหรือส่งข้อมูลหาลูกค้าหรือภายในองค์กรได้
มาจากเว็บhttp://www.host-domain.info/ftp-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-ftp-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87-file-transfer-protocal.html
ความหมายของ Web Server คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงทำหน้าที่เป็น Server ให้บริการ World Wide Web (WWW) หรือที่รู้จักกันว่าHomepage Web server คือ บริการ HTTP (Hyper Text Transfer Protocol) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูล ทั้งภาพ และเสียง จากเครื่องบริการ ผ่าน Browser เช่นบริการ http://www.tutor-tan.com หรือ http://localhost เป็นต้น เครื่องบริการ ที่รองรับคำร้องขอจาก Web Browser ข้อมูลที่จะส่งไปอาจเป็นเว็บเพ็จ ภาพ หรือ เสียง เป็นต้น สำหรับโปรแกรมที่ได้รับความนิยม ให้นำมาเปิดบริการ Web คือ Apache Web Server หรือ Microsoft Web Server
มาจากเว็บhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chanthira&month=01-2008&date=17&group=1&gblog=36
ชื่อโดเมน (Domain Name) หมายถึง ชื่อที่ถูกเรียกแทนการเรียกเป็นหมายเลขอินเทอร์เน็ต (IP Address) เนื่องจากการจดจำหมายเลข IP ถึง 16 หลัก ทำให้ยุ่งยาก และไม่สามารถจำได้เวลาท่องเที่ยวไปในระบบอินเทอร์เน็ต จึงนำชื่อที่เป็นตัวอักษรมาใช้แทน ซึ่งมักจะเป็นชื่อที่สื่อความหมายถึงหน่วยงาน หรือเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ
เช่นเว็บไซต์ของสคูลเน็ต มีหมายเลข IP คือ 203.185.64.4 ซึ่งยากต่อการจดจำ (ในกรณีที่ต้องจำหลายเว็บไซต์) ดังนั้นจึงมีการกำหนดชื่อเรียกใหม่ เป็น www.school.net.th ซึ่งก็คือ "ชื่อโดเมน" นั่นเอง
ชื่อโดเมน เป็นชื่อที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลต่อบุคคล แต่การติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ยังใช้ IP Address ดังนั้น ระบบจึงมีการติดตั้งโปรแกรม และเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นตัว Lookup หรือดัชนี ในการเปิดดูบัญชีหมายเลข จากชื่อที่เป็นตัวอักษร หรือเรียกว่า Domain Name โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่นี้เรียกว่า Domain Name Server หรือ Domain Server
ชื่อโดเมน เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้าง และถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา โดยแต่ละประเทศจะมีหน่วยงานรับผิดชอบการจดทะเบียนชื่อโดเมน เช่น ประเทศไทย รับผิดชอบโดย "ศูนย์สารสนเทศเครือข่ายประเทศไทย - THNIC : Thailand Network Information Center"
Top level domain มีหน่วยงานที่ดูแลคือ INTERNIC (International Network Information Center) ซึ่งได้แบ่ง Top level domain ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ - Generic Domain คือกลุ่มโดเมนที่อยู่ในอเมริกา (เนื่องจากระบบนี้เริ่มพัฒนาขึ้นใช้ในอเมริกา แต่ต่อมาได้ขยายสู่ทั่วโลก) โดเมนเหล่านี้จะบ่งบอกถึงลักษณะการดำเนินการขององค์กร คือ
ชื่อย่อโดเมน
ประเภทขององค์กรในสหรัฐอเมริกา
com
commercial, company : สำหรับบริษัททั่วๆ ไป
edu
educational institution : สำหรับสถาบันการศึกษา
gov
government : สำหรับหน่วยงานของรัฐบาล
int
international : สำหรับองค์กรระหว่างประเทศ
mil
military : สำหรับหน่วยงานทหาร
net
service provider, network : สำหรับองค์กรที่ดำเนินงานด้านเครือข่าย
org
nonprofit organization : สำหรับองค์กรอื่น ๆ
- Country Domain คือกลุ่มของโดเมนที่เป็นชื่อย่อของแต่ละประเทศ เช่น uk คือโดเมนสำหรับ อังกฤษ และ .jp คือ โดเมนสำหรับญี่ปุ่น หรือ th สำหรับประเทศไทย ในแต่ละประเทศก็จะมีหน่วยงานจัดการโดเมนภายใต้โดเมนประเทศตน สำหรับโดเมน th ก็จะมี THNIC (Thailand Network Information Center)เป็นผู้ดูแล
.ac
Ascension Island
.ad
Andorra
.ae
United Arab Emirates
.af
Afghanistan
.ag
Antigua and Barbuda
.ai
Anguilla
.al
Albania
.am
Armenia
.an
Netherlands Antilles
.ao
Angola
.aq
Antarctica
.ar
Argentina
.as
American Samoa
.at
Austria
.au
Australia
.aw
Aruba
.az
Azerbaijan
มาจากเว็บhttp://www.kemapat.ac.th/domain.htm
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
พื้นฐานของ Web Server คืออะไรบ้าง?
ตอบลบเข้าถึง Telkom University Jakarta